"เซลลูไลท์" ศัตรูตัวร้ายของสาวๆ

- เซลลูไลท์อาจจะกำลังเป็นปัญหากวนใจสาว ๆ ส่วนใหญ่ ยิ่งเมืองไทยอากาศส่วนใหญ่จะร้อนมาก ๆ บางคนอยากใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่อยากอวดต้นขาใหญ่ ๆ กลัวคนทักว่าไปทำอะไรมา ทำไมที่ขาเหมือนโต๊ะสนุกเกอร์บ้าง ล้อว่าเป็นขาหมูบ้าง ยิ่งชุดว่ายน้ำ บางคนถึงขั้นพับเก็บใส่ลิ้นชักไปได้ ไม่ต้องกังวลใจนะคะ วันนี้ มีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก แต่เรามาเริ่มทำความเข้าใจกับเจ้าเซลลูไลท์ตัวร้ายกันก่อนนะคะ

- เซลลูไลท์ (Cellulite) คือ ลักษณะของเซลล์ไขมัน ที่สะสมอยู่ชั้นบนของผิวหนัง โดยจะมีลักษณะขรุขระ คล้ายผิวเปลือกส้ม เป็นก้อนนูน ไม่เรียบเนียน ส่วนมากมักพบได้บริเวณสะโพก ต้นขา ต้นแขน ก้น หน้าท้อง และไม่ใช่เฉพาะคนอ้วนเท่านั้นที่จะมีเซลลูไลท์ คนผอมก็สามารถสะสมเซลลูไลท์ได้เช่นกัน ยิ่งร่างกายคนนั้นมีไขมันใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะมีการสะสมเซลลูไลท์ก็จะยิ่งสูงขึ้น มักพบการสะสมของเซลลูไลท์ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะมีหลาย ๆ ข้อมูลทีบ่งบอกว่าการเกิดเซลลูไลท์อาจจะมีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศหญิง

- เซลลูไลท์จัดเป็นอุปสรรคสำคัญของผิวสวย เพราะสาว ๆ คงไม่อยากให้ใครเห็นผิวเปลือกส้มอยู่บนตัวเราแน่ ๆ วิธีเช็คง่าย ๆ ถ้าเรายังมองไม่เห็นเซลลูไลท์ด้วยตาเปล่า ให้ลองเอามือทั้ง 2 ข้าง จับในบริเวณที่เราสงสัยว่าจะมีเซลลูไลท์ เช่น ต้นขา แล้วลองบิดเนื้อต้นขาดู แล้วดูว่าลักษณะผิวที่เห็นมีความขรุขระเหมือนผิวเปลือกส้มหรือไม่ ใครที่ยังไม่เห็นก็อย่าชะล่าใจไปนะคะ เพราะการสะสมของเซลลูไลท์แบ่งออกได้เป็นหลายระดับ

- ระยะที่ 1 เริ่มมีการสะสมเซลลูไลท์ในระดับที่น้อย อาจจะยังไม่สามารถมองเห็นได้ หรือแม้กระทั่งบิดเนื้อดูก็อาจจะยังไม่เห็นความผิดปกติ

- ระยะที่ 2 เป็นระยะที่ร่างกายสะสมเซลลูไลท์เพิ่มขึ้น ยังไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ถ้าบิดเนื้อก็จะเริ่มเห็นผิวเป็นคลื่นขรุขระ ขรุขระมากหรือน้อยก็เป็นตัวบ่งบอกปริมาณเซลลูไลท์ที่สะสมในร่างกายเรา บางครั้งถ้าคุณเคลื่อนไหวร่างกาย หรือในเวลาที่กล้ามเนื้อเกิดการยืดตัว เช่น ขณะที่นั่งไขว่ห้าง อาจจะทำให้มีโอกาสเห็นเซลลูไลท์ชัดเจนเช่นกัน

- ระยะที่ 3 เป็นระยะที่สามารถมองเห็นผิวเป็นคลื่นขรุขระชัดเจนโดยที่ไม่ต้องบิดผิว แสดงถึงว่าใต้ผิวเรามีการสะสมเซลลูไลท์อยู่มาก ซึ่งการจะแก้ไขก็ต้องใช้เวลานานกว่าการสะสมในระยะต้น ๆ

***สาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์***

1.ทานอาหารที่อุดมด้วยสารพิษ ไขมัน ของทอด ผงชูรส สารกันเสียในอาหาร อาหารรสจัด อาหารที่เค็ม ทานโซเดียมจากน้ำปลาหรือเกลือมากเกินไป ยิ่งคุณทานอาหารที่ทำให้คุณอ้วน คุณก็จะมีไขมันในร่างกายมาก และสารพิษกับไขมันในร่างกายคุณจะจับตัวอยู่ดวยกันและถูกหุ้มด้วยน้ำและน้ำเหลืองในร่างกาย กลายเป็นเซลลูไลท์ การทานเค็มก็จะทำให้เกิดการบวมน้ำด้วยเช่นกัน ทำให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองลดลง

ยกตัวอย่างอาหารใกล้ตัวที่อาจทำให้คุณสะสมเซลลูไลท์เพิ่มขึ้น เช่น ก๋วยเตี๋ยว เพราะคุณจะได้รับผงชูรสที่คนขาย(บางร้าน)ใส่ไปในน้ำซุป หรือในชามก๋วยเตี๋ยว ซึ่งบางคนก็ชอบทานก๋วยเตี๋ยวรสจัด ใส่น้ำปลาเยอะ ๆ ก็ยิ่งได้รับโซเดียมเยอะเข้าไปอีก หรืออาหารประเภทส้มตำ หรือยำ ก็เช่นเดียว เพราะจัดเป็นอาหารที่คุณมีโอกาสรับผงชูรสและโซเดียมที่มากเกินไปจากอาหารจานโปรดได้

2.เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม กาแฟ ล้วนแล้วแต่ทำให้คุณอ้วนได้ง่าย และได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินกว่าที่ร่างกายจะนำไปใช้ได้หมด จึงเหลือสะสมในรูปไขมัน โดยเฉพาะช่วงกลางตัวและช่วงล่าง

3.การขาดการออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกาย ยิ่งคุณขยับร่างกายน้อยเท่าไหร่ โอกาสที่ไขมันช่วงล่างของคุณจะสูงก็มากเท่านั้น สาว ๆที่ต้องนั่งโต๊ะทำงานเอกสาร หรือนั่งอยู่กับที่นาน ๆ ระวังให้ดีนะคะ

4.การดื่มน้ำบริสุทธิ์น้อยในแต่ละวัน ก็เป็นสาเหตุให้ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำ และเสียสมดุลของเหลวในร่างกาย เพราะร่างกายมีกลไกอัตโนมัติที่รู้ว่าเราไม่ค่อยดื่มน้ำ เลยต้องมีการกักเก็บเอาไว้ใช้ในร่างกายให้มากที่สุด แต่ถ้าทานน้ำในปริมาณที่มากพอ ร่างกายก็จะนำน้ำไปใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย และสุดท้ายก็จะใช้น้ำเป็นตัวพาของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกาย เช่นทางเหงื่อ ทางปัสสาวะ อุจจาระ เป็นต้น

5.การนอนดึก พักผ่อนน้อย จะทำให้ร่างกายลดระดับการเผาผลาญพลังงาน และทำให้ร่างกายมีโอกาสสะสมไขมันเพิ่มขึ้น กระบวนการต่างๆ ในร่างกายทำงานได้แย่ลง

6.ผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศ เช่นคุณแม่หลังคลอด หรือผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิด ยาฮอร์โมนต่าง ๆ ก็มีผลต่อการเกิดเซลลูไลท์ในร่างกายได้

>>>หลากวิธีกำจัดเซลลูไลท์<<<

1.ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคโดยด่วน ลดการรับประทานจุบจิบ อาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน ขนมหวาน ช็อกโกแลต หันมารับประทานอาหารที่มีกากใยสูง โปรตีนย่อยง่าย เช่นถั่ว เต้าหู้ ปลา ทานผัก และผลไม้ที่ไม่ทำให้อ้วนจะดีกว่า

2.ลด ละ เลิก การทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม กาแฟ เพราะเป็นเครื่องดื่มที่เป็นภัยต่อความสาวและสวย หันมาดื่มน้ำบริสุทธิ์ให้มากขึ้นจะยิ่งทำให้ร่างกายมีการขับของเสียออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งเมืองไทยอากาศร้อน ร่างกายต้องการน้ำ 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัว 1 kg เช่นถ้าน้ำหนัก 50 kg ร่างกายต้องการน้ำเท่ากับ 2000 มิลลิลิตร หรือ 2 ลิตรนั่นเอง

3. ลดการทานอาหารรสจัด หรือเค็มจัด จะช่วยลดการสะสมของเสียในร่างกายและลดการบวมน้ำได้

4.พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง ช่วยให้กระบวนการขับล้างสารพิษในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และระบบการเผาผลาญไขมันทำงานได้ดี

5.ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกทุกวัน เช่น เดินเร็วๆ วิ่งเหยาะๆ ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ หรือเต้นแอโรบิก สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30-40 นาทีขึ้นไป จะทำให้เกิดการเผาผลาญไขมัน ทำให้เซลลูไลท์มีขนาดเล็กลง และยังทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน ทำให้แลดูว่าผิวเรียบขึ้นได้

6.การใช้แปรงนวดหรือถุงมือขัดผิวเป็นประจำวันละ 2 นาที จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและสลายเซลลูไลท์ เริ่มจากเท้าและให้ปัดแปรงผิว หรือนวดในทิศทางที่มุ่งเข้าสู่หัวใจ แต่อย่านวดหรือขัดผิวแรงจนเกินไป แต่ขัดเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอด้วยแรงพอประมาณ ทำอย่างต่อเนื่องทุกวัน แนะนำให้ทำตอนอาบน้ำค่ะ จะง่ายและสะดวกที่สุด

วันนี้เรารู้ถึงสาเหตุและวิธีกำจัดเจ้าเซลลูไลท์ตัวร้ายกันแล้ว ก็ลองนำไปปรับใช้กับการดูแลตัวเองกันดูนะคะ

โค้ชยุ้ย

‪#‎โปรแกรมฟิตหุ่น‬ ‪#‎หุ่นดีจากที่บ้าน‬ ขอข้อมูลเพิ่มเติมทัก โค้ชยุ้ย ได้ที่ Line ID : Coach.Yui เลยจ้า